การเดินทางอันยาวไกล ของ อ.อาดัม นิพนธ์ สะเล็ม
Proflie :
ชื่อ อาดัม (นิพนธ์) สะเล็ม
วันเกิด 31 ม.ค. 2500
ภูมิลำเนา อ.บางบ่อ สมุทรปราการ
การศึกษา – กศน.โรงเรียนสมุทรปราการ
– โรงเรียนออกแบบทรงผมเรืองฤทธิ์
– PIVOT POINT UPDATE 84
อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว ร้าน อาดัม แอนด์ อีฟ
ปัจจุบัน เปิดโรงเรียนออกแบบทรงผมอาดัม 3 สาขา
รางวัลที่ได้รับ รางวัลดีเด่นประกันคุณภาพภายใน ปี 2552
รางวัลประกันคุณภาพภายในดีมาก ปี 2555
การเดินทางอันยาวไกล เริ่มต้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจ และแรงบันดาลใจของเรา เช่นเดียวกับ อ.อาดัม สะเล็ม ผู้คร่ำหวอดในวงการเสริมสวย โดยเฉพาะด้านทรงผม ที่อาจารย์มุ่งมั่นตั้งใจมาตั้งแต่ยุคแรกๆ จนผ่านมาหลายยุคหลายสมัย และสร้างผลงาน รวมถึงสร้างลูกศิษย์ให้ถึงฝั่งฝันอย่างมากมาย อาจารย์เล่าถึงเรื่องราวเหล่านี้ให้ฟังว่า
หลังจากจบอนุปริญญา เราก็เริ่มหาแรงบันดาลใจ ก็มีความสนใจในงานด้านวิชาชีพเกี่ยวกับด้านทำผม จุดนี้ก็เลยเริ่มเรียนมาตั้งแต่เริ่มต้น ที่สถาบันออกแบบทรงผมเรืองฤทธิ์ โดยหลังเรียนจบก็ได้เป็นครูที่ปรึกษาเรืองฤทธิ์ตั้งแต่ 2521 และมีการศึกษาต่อเพิ่มเติมต่อจาก PIVOT POINT ซึ่งขณะนั้น เราก็สอนที่สถาบันเรืองฤทธิ์ด้วย จากนั้นมา ก็พัฒนาเรื่องอาชีพตลอด ก่อนจะมาเปิดร้านตัวเองเป็นร้านแรกที่ถนนเกษร ราชประสงค์ กับอีกเส้นก็คือราชดำริ อาเขต ครับ”
ในยุคสมัยนั้น การแข่งขันยังมีไม่มาก แต่การเปิดการเรียนการสอน และเปิดร้านทำผม เป็นความใฝ่ฝันของช่างผมหลายๆ คน อาจารย์อาดัมเอง ก็เริ่มขยับขยายในด้านนี้ จนธุรกิจเติบโตในหลายสาขาอาชีพ
“ตอนแรกเลย อาจารย์ก็แค่เปิดเป็นร้านทำผมนะ แต่ขณะเดียวกันเราก็เริ่มมีการสอนด้วย เปิดด้านบริการด้วย ทั้งบาร์เบอร์และซาลอน ขณะที่ทำ ก็มีการเรียนรู้ดูงาน เป็นการเสริมความรู้เกี่ยวกับวิชาการ การเรียนการสอน ไล่ตั้งแต่เรียนเกล้าผม เรียนเกี่ยวกับเทคนิคการแต่งหน้า แต่เราไม่ได้สอนแต่งหน้าเองนะ แค่เพียงอยากเรียน ศึกษาให้รู้ในเรื่องความสวยความงามหลายๆ ด้าน หลังจากอยู่ราชดำริอาเขต ก็เริ่มขยับขยายไปเปิดร้านที่แกรมมี่ ที่อโศก ช่วงนั้นบริหารร้าน เปิดเป็นสปาด้วย ที่แกรมมี่ในช่วงปี 44-45 ค่าเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 60,000 ซึ่งค่าใช้จ่ายในช่วงเวลานั้นมันค่อนข้างสูงเพราะเป็นร้านทำผม และ สปาหน้าด้วย มันก็เลยสะดุดเหมือนกัน ทุกอย่างจะมีความติดขัดบ้างเป็นช่วงๆ นะ แต่ก็ทำไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นเราเหมือนกับยังไม่ได้เปิดโรงเรียน อาจจะไม่ราบรื่นนัก แต่ตอนนั้นเราก็อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารร้านเองด้วย สมัยก่อนไม่เหมือนปัจจุบัน เดี๋ยวนี้หลากหลายมาก เมื่อก่อนโรงเรียนเราบูมได้ง่าย เด็กต่างจังหวัดมาหาเราได้ เดี๋ยวนี้เส้นทางมันเปลี่ยน ตอนหลังที่แกรมมี่ เราก็จำเป็นต้องหยุดไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายในด้านสถานที่ขึ้น จำเป็นต้องหยุด แล้วเราก็ทำตรงอื่นเสริมไป เราก็ไปบูมโรงเรียนที่เริ่มมาตอนแรก แต่ตอนเขาเอาสิทธิ์คืน มันก็จะทำให้เราหยุดชะงักเป็นช่วงๆ แต่มีการเรียนการสอนเหมือนเดิม รูปแบบอาจจะเล็กไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถทำได้อยู่ ซึ่งในช่วงนั้น ก็มีการเชื้อเชิญให้ไปเป็นนายกสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย 48 รับตำแหน่งนายก เปิดโรงเรียนเสริมสวยด้วย คือโรงเรียนอดัม & อีฟ เปิดแห่งแรกที่สุขุมวิท สำโรงเหนือ จากนั้นเรามีการพัฒนาเรื่องโรงเรียนมาเรื่อยๆ จนเราเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนถ่ายสถานที่ ก็ขยับขยายไปเปิดที่ฝั่งธนด้วย เปิดสามที่ แต่เซนเตอร์ใหญ่เลยคือที่สำโรงครับตอนนั้น”
อาจารย์อาดัม ทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริง แต่ในส่วนของการบริหารงานกับธุรกิจหลายๆ ส่วน แนวคิดและการดำเนินงานก็ต้องเป็นไปด้วยความมุ่งมั่นตามไปด้วย ซึ่งอาจารย์เล่าถึงการบริหารงานในขณะนั้นว่า…
“การบริหารงานนี่ ต้องบอกก่อนว่าเรื่องการสอนของอาดัม & อีฟ จะไม่เหมือนโรงเรียนอื่นๆ เราใช้สกิลมากกว่า ความสามารถเฉพาะตัวต่างๆ ก็เลยหยุดบางที่ไปเพื่อมาบูมที่เดียวให้เติบโต การบริหารก็มาติดขัดช่วงหนึ่ง แต่ช่วงนั้นที่หยุดไป คือตึกไม่ใช่ตึกเราเอง เราต้องการสถานที่ โลเกชั่น หุ่นที่มาตัด การบริหารตรงนี้ ถ้าเราอยู่ในแหล่งทำเลที่ไม่ดีก็จะเกิดปัญหา เรามาบูมที่สำโรง นักเรียนเยอะมาก แต่ติดขัดช่วงสัญญาเปลี่ยน การขอจดทะเบียนโรงเรียนต้องผ่านขั้นตอนของกระทรวงศึกษา เราก็เลยมองว่าช่วงปัจจุบัน จะเป็นการเรียนการสอนรออาคารอยู่ ตอนนี้มาใช้สถานที่สำโรงชั่วคราว ไม่กว้างมาก รับนักเรียนได้ไม่เกิน 20 คน แต่การเรียนการสอนก็ยังมีอยู่ตลอด”
งานค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาด้านต่างๆ อีกมากมาย ในจุดนี้ อาจารย์มีการแบ่งเวลา จัดสรรในแต่ละแห่งอย่างไรบ้าง
“เรื่องเวลานี่คือเราบริการด้วย สอนด้วย บริการส่วนของด้านล่างของโรงเรียน ซึ่งจะมีห้องเกี่ยวกับให้เด็กรุ่นใหม่ดูวิธีการบริหารงานภายใน เมื่อเขาปฏิบัติงานจริงได้เห็นเลยว่าเป็นยังไง อบรมผู้ปฏิบัติการจริง ให้เขาได้ทำงานอย่างถูกวิธี ถูกหลักของเรียนออกแบบ ก็จะมีให้นักเรียนแต่ละรุ่น จบ 6 เดือน เบื้องต้นเท่าไหร่ จะเรียนอะไรบ้าง เป็นสเต็ปๆ ไป เราก็ทำงานบริการไปด้วย จะมีลูกค้าหลากหลาย เพื่อเลี้ยงดูร้านเราได้ ส่วนการสอนก็จะเป็นในลักษณะบูรณาการไปด้วย วิธีการตรงนี้ เพื่อผสมผสานการเรียนการสอน ให้นักเรียนปฏิบัติงานจริงได้ ลูกศิษย์สอนมาตั้งแต่ปี 22 ก็ 40 ปีแล้ว แต่เราไม่ทิ้งหลักวิชาการเดิมเลยนะ อาจารย์จบมาจากสถาบันเรืองฤทธิ์ หลักการสากลของที่นี่คือ เรขาคณิต เราเรียนเพื่อออกแบบ เพื่อผู้เรียนจะไปถ่ายทอดคนอื่นได้ เป็นขั้นเป็นตอน เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของโรงเรียนเรา โรงเรียนออกแบบทรงผม จะสอนเรื่องของสรีระของร่างกาย การยืนของนักเรียนด้วย ผู้ออกแบบต้องมีบุคลิกที่ดี การจับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ วิธีทำอย่างไรให้ปลอดภัย รวมทั้งเมื่อเราออกแบบให้ลูกค้า เราจะดูอะไรเป็นหลัก จะเสริมให้เขาควบคู่การเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการทำงานจริงด้วย”
หลากหลายอย่างในวงการความงาม นอกจากงานที่ทำตรงนี้ ยังมีงานด้านอื่นๆ อีกหลายอย่างที่อาจารย์อาดัมได้ทำไปพร้อมๆ กันด้วย
“ค่อนข้างหลากหลายอย่างครับ ก็มีงานที่ปรึกษาต่างๆ ซึ่งจะแยกออกจากกัน ที่ปรึกษาสมาคม ก็จะแนะแนวอีกอย่างหนึ่ง ทำยังไงให้สมาคมเติบโตและอยู่ได้ อีกส่วนของด้านเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคของกระทรวงแรงงาน ก็จะมีสองช่วงด้วยกัน คือช่วงร่างหลักสูตรให้กับกระทรวงแรงงาน สองคือการแข่งเวิลด์สกิล เราก็จะอยู่ในส่วนนี้ ของรัฐบาล แยกของสมาคมกับวิชาการออกไป แบ่งเวลาไป ปัจจุบันที่กำลังทำงานอยู่ ของสถาบันคุณวุฒิขึ้นตรงกับสำนักนายก ก็คือการทำมาตรฐานให้สูงขึ้น ให้วงการเสริมสวยมีการพัฒนาตัวอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง แบ่งเป็นเรื่องๆ ไป ในงานวิชาการ ก็เป็นเรื่องการเรียนการสอน การประเมินคน หลักสูตรก็คล้ายๆ กัน หลักเกณฑ์ตัวเดียวกัน มีการพัฒนาแบบบูรณาการ คือเยอะเลยที่ต้องวางแผนในการทำงาน เพราะเราทำหลายด้าน บางคนถามเอาเวลาจากไหน ตรงนี้คือ ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราก็จะดูแลลูกค้าไม่ไปไหนเลย ส่วนออกมาข้างนอกก็จะดูว่า จันทร์ อังคาร พุธ ลูกค้าจะซอล์ฟหน่อย เราก็เอาเวลาตรงนี้มาช่วยสังคมไป”
ถึงตอนนี้ มุมมองอนาคตข้างหน้า กับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมที่เปลี่ยนไป เราต้องปรับเปลี่ยนมุมมองอะไรบ้างไหม ตรงนี้อาจารย์กล่าวว่า…
“จริงๆ แล้วผมต้องการผลักดันคนรุ่นหลังนะ ช่วงนี้คืออยากให้เยาวชนจบเป็นรุ่น ๆ เราก็หาวิธีที่เราไม่ต้องเหนื่อยมาก หรือเดินทางเยอะ อีกไม่นานคงมีงานใหม่ ฟอร์มรูปแบบอยู่ เป็นนันทนาการเหมือนกัน มาเสริมตัวเองในตอนเราอายุมากๆ ลูกค้าอาจเปลี่ยนทิศทาง แต่อาชีพทำผมก็ยังทำอยู่ เพียงแต่เราก็สร้างอาชีพใหม่ๆ ขึ้นมาด้วย ได้คุยกับทางอาชีวะ เนื่องจากเราเป็นกรรมการตัดสินด้านอาชีวะด้วย ตัดสินต่างๆ เราก็ยังสามารถแบ่งเวลาทำได้ มีหลายสถาบันได้จองตัวเราไว้ ก็สามารถทำได้ การตัดซอย การดัดผม ต้องทำอย่าง ทางอาชีวะก็ขอเวลาเรามา ก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะแบ่งเวลาให้กับงานด้านนี้ให้ได้ด้วยในอนาคต”
ถึงเวลานี้ หากมีสักอย่างที่อยากฝากไว้กับเด็กรุ่นหลัง อาจารย์อยากฝากอะไรไว้บ้างมั้ยคะ
“อันนี้สำคัญนะ ผมก็อยากบอกว่า เด็กๆ รุ่นหลัง ปัจจุบันเรื่องการเรียนการสอนอาจมีผิดเพี้ยนไปเยอะมาก จากประเมินคนมา มีข้อผิดพลาดเยอะมาก เนื่องจากเด็กรุ่นหลังเรียนรู้จากยูทูป กันมากกว่า มุมมองจากการทำงานที่ไม่มีแบบฉบับที่ครูสอนให้ ไม่มีพื้นฐานหรือวิชาการที่ถูกต้อง หรือมีความเป็นครูพักลักจำซะมากกว่า มันเหมือนเราเรียนรู้แบบผิดๆ มา ก็อยากฝากถึงน้องๆ เด็กๆ รุ่นหลังว่า อย่าทิ้งวิชาการ พื้นฐานอันเป็นสิ่งสำคัญ เป็นการสร้างฐานให้แข็งแรงเพื่อเราจะจะต่อยอดต่อไปได้ อาชีพทำผม เป็นอาชีพศิลปะแขนงหนึ่งนะ ไม่ว่าโรงเรียนไหน ที่เป็นวิชาการ เราสามารถไปเรียนได้เลย จะรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมีคุณค่ามาก อยากให้เด็กรุ่นใหม่อย่ามองอะไรผิดพลาด ถ้ามีแนวทางที่ดี คงรู้ว่า สำเร็จมาแล้ว ต้องถ่ายทอดวิชาต่อไปอย่างไร เมื่อเราเข้ามาสู่อาชีพเสริมสวยตรงนี้แล้ว”
ท้ายสุดแล้ว จากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการก้าวเดินบนถนนสายนี้มากกว่า 40 ปี ของอาจารย์อาดัม สะเล็ม นับเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญในวงการความงาม เป็นทั้งครูผู้ให้ และลูกศิษย์ที่พร้อมเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อพัฒนางานบนถนนสายนี้ให้ก้าวหน้าก้าวไกลต่อไป เป็นหนึ่งในกำลังใจดีๆ ให้กัน เพื่อตามความฝันให้เป็นจริงขึ้นมาได้เสมอในทุกๆ วันกันนะ !