เรื่องสั้น…รักพลิกล็อค / รินษรา…บทอวสาน

“จอร์ทคะ เรามีความสุขกันวันนี้ แล้ววันพรุ่งนี้ละคะ”

“วันไหนๆ ก็เป็นวันแห่งความสุขของเราสองคนทั้งนั้นแหละเนย ผมสัญญา”

“แต่ฉัน…เอ้อ ฉันกลัวว่าแฟนของคุณ”

“เรื่องนั้นผมเคลียร์ได้ไม่ยากหรอกเนย แค่คุณเคลียร์เรื่องของคุณจบเรียบร้อย ผมก็สบายใจแล้ว ไม่อย่างนั้น ผมไม่มีวันมาอยู่เคียงข้างคุณแบบนี้หรอกนะ แค่คุณไว้ใจผม ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลทั้งนั้น”

 “ขอบคุณนะคะจอร์ท ขอบคุณที่คุณเข้าใจฉัน”

“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ ที่คุณเข้ามาเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไปของผมให้เต็มให้ในวันนี้ ผมยินดีต้อนรับเลขาคู่ใจของผมไว้ในอ้อมกอดของผมตลอดไปเลยนะฝ้าย”

“คุณนี่ ลิเกก็เป็นกับเขาด้วยนะคะ”

 “ถึงจะลิเก แต่ผมก็เป็นพระเอกนะจะบอกให้ และผมก็มีคุณเป็นนางเอกเพียงคนเดียวด้วย นับจากวันนี้”

พูดจบเขาก็กอดกระชับหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมแขน ราวกับว่านี่คือบทสรุปของชีวิตและความรักอันมั่นคงและมั่นใจที่สุดแล้วสำหรับเขา !

…………….

“แวว ผมขอโทษ”

ชายหนุ่มลุแก่โทษ เขารู้สึกผิดเมื่อก้มหน้าลงไปประชิดใบหน้าของหญิงสาวอีกครั้งและพบว่ามันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

“คุณกลับไปซะเถอะค่ะ ในเมื่อคุณขอโทษเป็น ฉันก็เชื่อว่าคุณคงไม่ได้พูดออกมาเพราะความมึนเมาอะไรใดๆ ทั้งนั้น”

“แต่ผม…”

“กลับไปซะ ฉันขอร้อง ฉันอยากอยู่คนเดียว ได้ยินมั้ยคะคุณนนท์ ฉันอยาอกอยู่คนเดียว !”

เสียงของเธอเข้มขึ้น มันเข้มขึ้นจนชายหนุ่มแทบอ่อนใจ เขาขยับตัวลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดังเดิม แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาคู่นั้นของเขาก็เต็มไปด้วยความห่วงใยและอาลัยอาวรณ์

“แวว แต่ผม เอ้อ…ระหว่างเรา ทุกอย่างยังเหมือนเดิมนะ”

“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องงาน ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันแยกแยะถูกว่าอะไรคืองาน หรือว่าอะไรคือเรื่องส่วนตัว”

“แวว แต่ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่า ผมไม่ใช่ผู้ชายมักง่ายที่เอ้อ…”

“คุณจะมักง่ายหรือมักมากอะไรก็ช่างเถอะค่ะ แต่เอาไว้เราค่อยคุยกันเถอะนะคะ คุณพูดอะไรออกมาตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”

“ถ้างั้น พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณไปทำงานนะ  สัญญานะว่าจะรอผม ผมไม่กวนคุณแล้วก็ได้ ขอบคุณนะแวว ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง”

ชายหนุ่มบีบมือเธอเบาๆ ก่อนจะก้าวออกไปจากบ้านเงียบๆ ทิ้งภาพหญิงสาวที่นอนจมน้ำตาอยู่เงียบๆ นั่นเอาไว้เบื้องหลัง

แน่ล่ะ บางครั้งบางครา สำหรับบางสิ่งก็ต้องการเวลา ที่จะผสานความเข้าใจให้กลับมาได้ดังเดิมอีกครั้ง

            และเขาก็วาดหวังเช่นนั้นไว้เต็มหัวใจ !

………………

            เช้าวันใหม่ผ่านมาถึง…

ที่แววเดือนเลือกที่จะตื่นแต่เช้าตรู่ และออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อไปใส่บาตรและหากาแฟเจ้าอร่อยดื่ม ก่อนใช้เวลาที่เหลือก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนถึงที่ทำงาน

แน่ล่ะ เธอเลือกที่จะไม่รอให้ใครหน้าไหนมารับเธอทั้งนั้น  ขอเป็นตัวของตัวเองสักวัน ขณะที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อของจอร์ทโชว์หราอยู่หน้าโทรศัพท์

“ค่ะ จอร์ท”

“เสียงคุณเหนื่อยจังแวว มีอะไรรึเปล่าครับ”

“ฉันไม่มีอะไร คุณล่ะจอร์ท มีอะไรจะบอกฉันรึเปล่า”

“ผม เอ้อ…”

“ฉันยินดีรับฟังทุกอย่างจากปากคุณเอง มีอะไรขอให้บอกกันตรงๆ อย่าให้ฉันได้ไปฟังจากคนอื่นเลยได้มั้ยจอร์ท ฉันทนไม่ได้จริงๆ ถ้าทุกอย่างที่คุณเคยบอกฉัน มันเป็นเรื่องโกหก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เราคงต้องโกหกกันทุกวัน จริงมั้ยคะจอร์ท”

“ก็จริงของแววนะ ผมผิดที่โกหกคุณ ผมขอโทษ คุณอย่าโกรธผมเลยนะแวว ทั้งหมด มันเกิดขึ้นเพราะผม…”

จากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็พรั่งพรูราวกับเป็นบทภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้น จนถึงตอนจบของเรื่อง ที่บทสรุปไม่ได้แฮปปี้เอ็นดิ้งเลยสักนิด

“แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างเรา ความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ อย่างนั้นใช่มั้ยแวว”

“ก็คงอย่างนั้นมั้งคะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะที่คุณเลิกโกหกฉันไปวันๆ ได้ซะที ขอให้คุณโชคดีกับความรักครั้งใหม่แล้วกันจอร์ท”

“เช่นเดียวกันนะแวว ผมขอให้คุณโชคดี !”

เสียงสัญญาณจากปลายสายตัดไปอย่างง่ายดาย ไม่ต่างไปจากสายสัมพันธ์ของความรัก ความผูกพันที่ถูกตัดรอนอย่างง่ายดายนั่นเลยสักนิด!

……………..

            “ถ้าเรามาเร็วกว่านี้สักนิด แววคงยังไม่ทันไปไหนได้หรอกเนย เป็นเพราะเราแท้ๆ เชียว แต่ง สวยอยู่ได้นี่นา”

พี่ชายบ่นอุบ เมื่อมาถึงบ้านและที่ทำงาน แต่กลับไม่พบวี่แววของแววเดือนสักนิด มีเพียงรปภ.เท่านั้นที่ยืนยันว่าเธอมานั่งรอออฟฟิศเปิด แต่หลังจากรับโทรศัพท์ไม่นาน เธอก็ก้าวเดินลับหายไปดื้อๆ

“ก็เนยเป็นผู้หญิงนี่คะ จะให้แค่อาบน้ำแต่งตัวแล้วมาทำงานเลยได้ไง”

“โอ.เค.ๆ พี่ไม่เถียงกับเราแล้ว เอางี้ เราเอากุญแจนี่ไปเปิดออฟฟิศนะ แล้วอยู่ดูแลที่นี่แทนพี่ไปก่อน เดี๋ยวพี่มา”

“เดี๋ยวพี่มา แล้วพี่จะไปไหนละคะ”

“ก็ไปตามว่าที่พี่สะใภ้เรากลับมาไง”

“เดี๋ยวๆ พี่นนท์ แล้วพี่นนท์รู้เหรอคะว่าจะไปตามพี่แววได้ที่ไหน”

“รู้สิ…ใครบ้างจะไม่รู้ว่าต้องไปตามหัวใจตัวเองได้จากที่ไหน !”

หลังประโยคนั้น น้องสาวเผลอยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้คารมของพี่ชายเต็มที แต่ฝ่ายนั้นก็แทบจะใส่เกียร์เดินหน้า เร่งเครื่องทะยานออกไปโดยไม่เหลียวหลัง ให้น้องสาวได้แต่ยืนมองตาปริบๆ อยู่ตรงลานกว้างนั่นเอง

…………..

“คุณบอกผมเอง ว่าวัดมีไว้ให้สงบใจ ไม่ได้มีไว้ให้คนอกหักรักคุดเข้ามาไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ใจคอคุณจะหนีผมมาบวชชีเลยเหรอแวว”

หลังจอดรถเสร็จ เห็นแผ่นหลังไวๆ ของหญิงสาวที่เขาจำได้แม่นยำ ชายหนุ่มก็แทบจะวิ่งไปยืนขวางหน้าเธอเอาไว้รวดเร็ว ภายในบริเวณอันร่มรื่นร่มเย็นของวัด ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ลมพัดพลิ้วจนได้ยินเสียงใบโพธิ์สะบัดไหว

“บวชชี อย่างฉันเนี่ยนะ จะมาบวชชี แค่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ จิตใจฉันมันยังหาความสงบไม่ได้เลย”

แววเดือนเถียงออกไปทันควัน ยิ่งได้เห็นใบหน้าตื่นๆ ของอีกฝ่าย เธอก็ยิ่งนึกขำ

“แล้วนี่คุณจะตื่นเต้นอะไรนักหนาถึงได้ตามฉันมาถึงวัด งานกาก็ไม่ทำ คุณเป็นถึงระดับผู้ บริหารนะคะ ไม่ใช่แค่พนักงานระดับล่างอย่างฉัน”

“จะระดับล่างระดับบนอะไร ผมก็ไม่สนทั้งนั้นแหละ วันนี้ถ้าคนรักของผมไม่เข้าไปทำงานด้วยกัน ผมก็จะไม่เข้าไปเหมือนกัน”

“คนรัก…คุณเรียกฉันว่าคนรักได้เต็มปากเต็มคำ ฉันยังไม่ได้รับรักคุณสักนิด”

“ใครว่า เมื่อคืนคุณบอกรักผมทั้งคืนต่างหาก”

“คุณชานนท์ นี่คุณ จะพูดจะจาอะไร ระวังหน่อยนะคะ ที่นี่ในวัด ไม่ใช่สวนสาธารณะ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปกับผมสิครับ ผมขอโทษที่ไปรับคุณสาย แต่อย่าโกรธผมแล้วหนีผมแบบนี้เลยนะ”

“ฉันไม่ได้หนีคุณซะหน่อย”

“อ้าว แล้วคุณ…มาที่นี่ทำไมล่ะ”

“ฉันมารับแม่ค่ะ แม่โทร.มาบอกว่าจะกลับวันนี้แล้ว เลยมาช่วยแม่เก็บของ คิดว่าไม่นานเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้โทร.บอกคุณก็เท่านั้นเอง”

“อ้าว อย่างนั้นเหรอครับ”

ชายหนุ่มรู้สึกหน้าแดงร้อนวูบไปนิดๆ ด้วยความรู้สึกเขินๆ กับการกระทำทุกอย่างที่ดูตื่นเต้นเกินไปอย่างหญิงสาวว่า ก่อนส่งยิ้มอ่อนๆ ให้

“โอ.เค. งั้นดีเลย ให้ผมช่วยนะ เดี๋ยวไปส่งแม่แล้ว คุณไปทำงานต่อเลยนะครับ”

“ก็ถ้าไม่ไปทำงาน แล้วคุณจะให้ฉันไปไหนได้ล่ะ”

“ไปไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอให้เป็นความต้องการของคุณเท่านั้น ผมสัญญานะแวว ต่อไปนี้ ผมจะปกป้องดูแลคุณเอง ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมก็จะรักษาหัวใจดวงนี้ของผมเอาไว้อย่างดีที่สุด”

ชายหนุ่มเกาะกุมมือของหญิงสาวเอาไว้ บีบมันเบาๆ ราวกับให้กำลังใจ แน่ล่ะ นี่ถ้าไม่ได้อยู่ในวัดสักนิด เขาคงกระโดดกอดแล้วหอมแก้มเธอสักฟอดให้เธอรับรู้ถึงความรักที่เขามีต่อเธอว่ามันมากมายเพียงใด แต่ใครจะคิดบ้างนะ ว่าความรักจะพลิกล็อค พลิกผันได้อย่างลงตัวขนาดนี้

“ขอบคุณนะคะคุณนนท์ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ฉันจะปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่วันนี้ แค่ฉันมีคุณมาเป็นความหวังและกำลังใจ ก็คงเพียงพอแล้วล่ะ”

หญิงสาวน้ำตารื้น ความรู้สึกเจ็บลึกในใจจากเรื่องราวที่เพิ่งจบลงระหว่างเธอกับจอร์ท ยังบาดลึก และต้องใช้เวลาในการรักษาแผลใจ หากชายหนุ่มอีกคนที่แทบจะแกว่งแขนเธอเบาๆ นั่นต่างหากที่ทำให้เธอยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

“ไม่เอาน่า เป็นแฟนนายนนท์ห้ามขี้แยนะครับ ไป…เราไปรับแม่กันเถอะ !”

เขาจับจูงมือเธอเอาไว้เพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แน่ล่ะ…หนทางยังอีกยาวไกล ไม่ต่างไปจากความรักที่มันแค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น แต่ชานนท์ก็มั่นใจว่าเขาจะนำพาความรักและปรารถนาดีของเขาที่มีต่อเธอ ไปถึงฝั่งฝันจนได้ด้วยสองมือของเขาที่พร้อมจะเกาะกุมมือของเธอเอาไว้ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ตลอดไป…ชั่วนิรันดร์…จบบริบูรณ์

เรื่องสั้น รักพลิกล็อค